ฤดูร้อนแบบนี้ เปิดแอร์เย็นๆ ให้ฉ่ำๆ เป็นเรื่องปกติที่ถูกคนถวิลหา แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันอาจตามมานั่นคือบิลค่าไฟฟ้า ที่แพงหูฉี่ ค่าไฟที่พุ่งกระฉูดแบบนี้ เกิดได้จาก 2 สาเหตุ ทั้งการเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน และอีกอย่างคือ การใช้แอร์ที่ผิดวิธี ซึ่งหลายคนก็เกิดข้อสงสัยว่าทำไมเป็นแบบนั้น ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะยังมี ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการใช้แอร์ การเปิดแอร์ และการล้างแอร์อยู่  มาดูกันว่ามีใครเผลอทำ 5 ข้อผิดๆ นี้ไปบ้างหรือเปล่า และจะแก้ไขอย่างไรดี Seekster มีคำตอบ

1. เปิด-ปิดแอร์บ่อยๆ จะทำให้ประหยัดไฟ

บางบ้านอาจจะชอบเปิดแอร์ไว้ช่วงเวลาหนึ่งแล้วปิดแอร์ หรือหันมาเปิดพัดลมแทนหลังจากนั้น และคิดว่าอาจจะช่วยประหยัดไฟ แต่จริงๆ แล้วนั้น ช่วงการทำงานของแอร์ที่กินไฟที่สุดคือ ช่วงเริ่มเปิดแอร์และสตาร์ทมอเตอร์ เนื่องจาก ช่วงนั้น คือช่วงที่มอเตอร์จะเร่งรอบการหมุนที่หนักหน่วงเพื่อเร่งสร้างความเย็นในช่วงแรกของการเปิดแอร์ ดังนั้น การเปิด-ปิดแอร์บ่อยๆ ไม่ได้ช่วยเรื่องการประหยัดไฟเสมอไป

2. เปิดแอร์อุณหภูมิต่ำจะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น

หลายคนคงเคยปรับแอร์ให้มีอุณหภูมิต่ำเพราะอยากให้ห้องเย็นเร็วขึ้น แต่จริงๆ แล้วการเปิดแอร์แบบนี้ เป็นการเร่งการทำงานของแอร์ ทำให้แอร์ทำงานหนัก และเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ เพราะอากาศแบบเมืองไทยนี้ ไม่ว่าจะตั้งให้อุณหภูมิไว้ต่ำและเย็นสักแค่ไหน ก็ใช้เวลาในการทำความเย็นพอๆ กันกับการตั้งอุณหภูมิปกติอยู่ดี ทางที่ดี Seekster ขอแนะนำว่า ถ้าหากอยากให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ให้เร่งความเร็วของพัดลมแอร์จะช่วยได้ดีกว่า และเปลืองไฟน้อยกว่าด้วย

3. ใช้แอร์จำนวน BTU ยิ่งเยอะ ยิ่งดี

เป็นความเชื่อเกี่ยวกับการใช้แอร์ การเปิดแอร์ที่ผิดสุดๆ เพราะแอร์ที่มี BTU สูงๆ เครื่องคอมเพลสเซอร์แอร์จะตัดบ่อย ทำให้ความชื้นภายในห้องสูง แถมยังเปลืองไฟ แต่ถ้าเลือกแอร์ที่ BTU ต่ำเกินไป ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง เช่น ห้องใหญ่ แต่ใช้แอร์ตัวเล็ก แอร์ก็ยิ่งทำงานหนักไปอีก แอร์ไม่ค่อยเย็น ทำให้แอร์เสียไว และเปลืองพลังงาน เปลืองไฟสุดๆ อีกด้วย ดังนั้นการเลือกซื้อแอร์จึงควรเลือกแอร์ให้มีขนาด BTU เหมาะสมกับขนาดของห้อง และถ้าเป็น แอร์แบบอินเวอร์เตอร์ด้วย จะยิ่งประหยัดไฟไปอีกเยอะเลย

4. เปิดแอร์พร้อมพัดลมทำให้เปลืองไฟ

บางคนอาจจะคิดว่าการเปิดพัดลมพร้อมกับเปิดแอร์จะทำให้เปลืองไฟ ซึ่งจริงๆ แล้วเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ ควรเปิดพัดลมควบคู่กับการเปิดแอร์ไปด้วย จะทำให้ห้องเย็นขึ้น ห้องมีการระบายอากาศที่ดีขึ้น และยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย ซึ่งมีทริคง่าย ๆ เริ่มจากปรับแอร์ไปที่ 25-27 องศาเซลเซียส แล้วเปิดพัดลมไปพร้อมๆ กัน พัดลมก็จะช่วยกระจายลมเย็นให้ทั่วห้อง และช่วยลดอุณหภูมิในห้องได้อีก 1-2 องศาเลยทีเดียว

5. เติมน้ำแอร์ทุกครั้งหลังล้างแอร์

ไม่ควรเติมน้ำยาแอร์ทุกครั้งหลังล้างแอร์ เพราะบางครั้งเราอาจจะกลัวแอร์ไม่เย็น หรือจะเสีย ก็เลยจ่ายเงินให้ช่างแอร์เติมและหลอกกินเงินไป ทั้งๆ ที่น้ำยาแอร์นั้นยังไม่หมด  ซึ่งช่างแอร์ Seekster ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน Seekster ขอยืนยันเลยว่า ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ทุกครั้งหลังล้างแอร์ และเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ก่อนการเติมน้ำยาแอร์ ควรเช็คให้แน่ใจว่าหมดจริงหรือไม่ ก่อนเสียเงินเพื่อเติมน้ำยาแอร์ รวมไปถึงการเลือกใช้บริการช่างแอร์ที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ อย่างช่างแอร์จาก Seekster

ล้างแอร์กับช่างแอร์มืออาชีพ ไม่ใช่ช่างแอร์มิจฉาชีพ ต้องล้างแอร์ Seekster เริ่ม 749 บาท ไม่จำกัดขนาด BTU

ล้างแอร์กับช่างแอร์มืออาชีพ Seekster เริ่ม 749 บาท ไม่จำกัดขนาด BTU

ล้างแอร์กับช่างแอร์ Seekster ไม่ต้องนับขนาด BTU จนสับสน ตอบโจทย์การเปิดแอร์ทั้งวันในช่วงหน้าร้อนที่ทุกคนอยากจองล้างแอร์แบบด่วนๆ

  • ล้างแอร์โดยช่างแอร์ Seekster ฝีมือชำนาญ ระดับมืออาชีพ
  • รับประกันงาน 30 วัน
  • ตรวจเช็คการทำงานของแอร์ ก่อนและหลังล้าง
  • ล้างทำความสะอาดทั้งคอยล์เย็น และคอยล์ร้อน
  • มีหัวหน้าทีมช่างดูแลการทำงานใกล้ชิด
  • เหมาะสำหรับแอร์ติดผนัง (Wall Type) ทุกขนาด ไม่จำกัด BTU
  • คลอบคลุมทุกพื้นที่ใน กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล

ล้างแอร์กับ Seekster วันนี้คุ้มสุดๆ พร้อมแจกโค้ดล้างแอร์ ลด 109 บาท เมื่อจองล้างแอร์ Seekster ทุก BTU จ่ายเพียง 640 บาท จากปกติ 749 บาท ประหยัดทั้งค่าไฟ ทั้งค่าล้างแอร์

กรอก CODE: FIRST2023 ทางแอปพลิเคชั่น Seekster จำกัด 1 คน / 1 สิทธิ์ วันนี้ - 31 มี.ค 66

ล้างแอร์ Seekster เริ่ม 749 บาท ไม่จำกัดขนาด BTU