Highlight

  1. ฟุ้งกระจาย หรือไม่ฟุ้งกระจายกันแน่นะ
  2. ไม่ใช่แค่ตัวสารเคมี แต่การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องพ่นและน้ำยาก็ควรมีการรับรองด้วยเหมือนกัน
  3. ความคุ้มค่า คือ ราคาและคุณภาพ ที่เหมาะสม

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วค่ะ สำหรับหลายๆธุรกิจที่ถูกสั่งปิดไปเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา จนในที่สุดก็ได้เวลานับถอยหลังที่จะได้กลับมาดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจอีกครั้ง แต่แน่นอนว่าหลายๆสิ่งหลายๆอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดและปลอดเชื้อโรคมาเป็นอันดับ 1 และผู้ประกอบการจะต้องเตรียมมาตรการรองรับเพื่อที่จะมั่นใจได้ว่า จะไม่เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในสถานประกอบการของคุณ

จากที่มีประกาศออกมาหลายประกาศ และมีผลิตภัณฑ์ออกมามากมาย ตั้งแต่ราคาหลักหมื่น จนถึงราคาหลักร้อย ทำให้มีลูกค้าหลายท่านสอบถามทาง Seekster เข้ามาถึงตัวบริการพ่นฆ่าเชื้อโรคของเรา และนั่นจึงเป็นโอกาสดีที่ผู้เขียนจะมาอธิบายเปรียบเทียบกันไปเลย เพื่อให้ลูกค้าและผู้อ่านได้เห็นภาพคุณสมบัติของบริการนี้มากขึ้นค่ะ


1. ฟุ้งกระจาย หรือไม่ฟุ้งกระจายกันแน่

อ้างอิงจากประกาศ ในเรื่องของการฟุ้งกระจายและอันตรายของสารเคมี ผู้อ่านลองนึกภาพการพ้นฉีดอัดน้ำไปที่พื้นผิว แน่นอนว่าจะต้องเกิดละอองและการกระเด็นเกิดขึ้นใช่มั้ยคะ เช่นเดียวกันค่ะ กับการใช้เครื่องพ้นสารแบบปืนพ้นซึ่งเป็นที่นิยมมากจากการที่พบเห็นได้บ่อยครั้งจากสื่อโฆษณาต่างๆ ไม่ว่าเครื่องพ้นจะมีความละเอียดมากเพียงใด (โดยปกติละอองจะอยู่ที่ 10-50 ไมครอน) แต่ด้วยแรงดันที่พ่นออกไป แน่นอนว่าเกิดการฟุ้งกระจายได้

การพ่นฆ่าเชื้อด้วยเทคโนโลยี Q-jet (Aerosal Disinfection) เป็นเทคโนโลยีที่ถูกเลือกใช้ในการฆ่าเชื้อโรคตามโรงพยาบาล หรือคลินิก เช่นเดียวกันกับการใช้ฆ่าเชื้อโรคในอุตสาหกรรมอาหารที่ยุโรป

Q-jet สามารถพ่นละอองละเอียดเพียง 5 ไมครอน โดยไม่ใช้การฉีดอัดไปตามพื้นผิวต่างๆ แต่เป็นการฆ่าเชื้อโดยการอบทั่วทั้งห้องในพื้นที่ปิด จึงทำให้ “ไม่เกิดการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค” และร่วมกับสารฆ่าเชื้อ Sanosil สารที่เราเลือกใช้ในการพ่นฆ่าเชื้อโรค เป็นสารที่สลายตัวเป็นออกซิเจนกับน้ำ ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมากไม่เป็นอันตรายต่อกับคน เด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยง และไม่จำเป็นต้องล้างน้ำออกค่ะ

อ่านข้อมูลน้ำยาฆ่าเชื้อเพิ่มเติม
https://seekster.co/blog/choose-seekster-sanitize-cleaning-service

2. ไม่ใช่แค่ตัวสารเคมี แต่การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องพ่นและน้ำยาก็ควรมีการรับรองด้วยเหมือนกัน

จากข้อที่แล้ว ผู้อ่านจะเห็นว่าการเลือกเทคโนโลยีและสารเคมีในการฆ่าเชื้อโรค เป็นเรื่องที่ต้องศึกษา เทคโนโลยีที่ใช้ในการพ่นจะต้องมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลเสียกลับมา เช่น การฟุ้งกระจายเชื้อแทนการฆ่าเชื้อ หรือ ตัวน้ำยาฆ่าเชื้อโรค จะสามารถครอบคลุมในการฆ่าเชื้อไว้รัสได้ และจะไม่เกิดสารตกค้างจนเกิดอันตรายต่อผู้คน

เหนือไปกว่าการเลือกเทคโนโลยี และน้ำยาฆ่าเชื้อ คือการรับรองได้ว่า ทั้งสองอย่างที่เราเลือกมานี้สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และการรับรองนี้เป็นอีกหนึ่งความแตกต่างที่บริการของเจ้าอื่นๆในตลาดไม่มีค่ะ


3. ความคุ้มค่า คือ ราคาและคุณภาพ ที่เหมาะสม

Seekster เป็นแพลทฟอร์มยุคแรกๆ ที่ได้มีการนำราคากลางมาปรับใช้ในการให้บริการต่างๆ อย่างเช่น บริการล้างแอร์ หรือ บริการยอดฮิตของเรา อย่างบริการแม่บ้าน โดยกำหนดราคากลางจากการใช้ข้อมูลจำนวนมาก แทนการเสนอราคา หรือการประมูลราคา ก่อนที่หลายๆ เจ้าจะหันมาปรับใช้ราคากลางเช่นกัน และนอกจากนี้เรายังมีการคัดกรองผู้ให้บริการอย่างเคร่งคัด จัดทีมฝึกอบรมที่ดีที่สุด เพราะเราเชื่อว่าความคุ้มค่า คือ คุณภาพที่ลูกค้าของเราจะได้รับในราคาที่เหมาะสมที่สุดค่ะ

ในหัวข้อสุดท้าย เราจะมาเปรียบเทียบ ความคุ้มค่าของบริการ Disinfectant Service ของ Seekster กันตามเกณฑ์พิจารณาต่างๆ กันค่ะ

ตารางเปรียบเทียบระหว่าง คนเช็ดทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค การพ่นฆ่าเชื้อแบบอื่นๆ (อ้างอิงการใช้โอโซนและเครื่องพ่นฆ่าเชื้อแบบปืน) และ การใช้เทคโนโลยี Q-jet (ใช้ควบคู่กับสารฆ่าเชื้อ Sanosil)

วันนี้ Seekster ได้นำเทคโนโลยีจากยุโรป ราคาหลายแสน มาให้คนไทยได้ใช้กันในราคาเพียงหลักพันบาทเท่านั้นค่ะ สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังเตรียมตัวกลับมาเปิดให้บริการ และกำลังมองหาบริการพ่นฆ่าเชื้อโรค สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้ฟรี

LINE: @seekster
โทร 02-080-3939
หรือ จองบริการพ่นฆ่าเชื้อโรค

ทิ้งท้ายบทความด้วยแพ็คเกจต้อนรับการกลับมาของการเปิดกิจกรรมทางธุรกิจอีกครั้ง ทาง Seekster ได้รวบรวมบริการที่คัดสรรสำหรับการเปิดร้านโดยเฉพาะ พร้อมส่วนลดแบบหนักๆ เพื่อผู้ประกอบการไทยทุกท่าน ติดตามได้เร็วๆนี้