อยากก้าวต้องกล้าเปลี่ยน! 3 สิ่งที่ต้องมี ถ้าองค์กรจะปรับโหมดเป็น Hybrid Working

โลกเปลี่ยนไปทุกวินาที คำนี้ไม่ไกลเกินจริง เพราะตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 การใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนก็เปลี่ยนไป รูปแบบการทำงานก็ปรับเปลี่ยนตามเช่นกัน จากที่เคยต้องเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศทุกวัน ก็ถูกสลับให้ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) บ้าง บางคนแทบไม่ต้องเข้าออฟฟิศแบบถาวร หรือบางคนอาจจะไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกเลยก็มี ซึ่งลักษณะการทำงานแบบนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ในช่วง 1-2 ปีหลัง มีชื่อเรียกเท่ๆ ว่า “Hybrid Working” (แบบไฮบริด) เป็นการทำงานตามยุคสมัยใหม่ ที่คนบ้านไกลก็ทำงานจากที่บ้านได้ หรือสามารถกำหนดวันเข้าออฟฟิศได้อย่างสะดวกสบาย เป็นการระบบการทำงานยุคใหม่ที่ผู้คนถวิลหาแบบแท้จริง

จริงๆ แล้ว การทำงานในลักษณะ Work From Home ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงปี 2020 เพื่อลดความเสี่ยงในการระบาดของโควิด-19 ในช่วงเวลานั้น และหลายๆ บริษัทรวมถึง Seekster เองก็พบว่า การทำงานจากที่บ้านเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น เพราะนอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้ว ยังลดการขาดลา มาสาย และการใช้ทรัพยากรต่างๆ ภายในออฟฟิศได้ด้วย ซึ่งส่งผลให้การทำงานที่บ้าน กลายเป็นเทรนด์ฮิตที่บริษัท สำนักงานต่างๆ นำปรับใช้จนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว แต่สำหรับคนที่ยังสงสัยว่าการทำงาน Hybrid Working เป็นอย่างไรกันแน่ Seekster จะพาไปหาคำตอบพร้อมกัน

การทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Working Mode) คืออะไร

การทำงานแบบไฮบริด เป็นรูปแบบการทำงานที่ให้พนักงานเข้าออฟฟิศ สลับกับ Work From Home หรือสามารถทำงานจากที่อื่นที่ไม่ใช่ที่บ้านได้ (Remote Working) เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง ลดความแอดอัดในออฟฟิศ และที่สำคัญลดความเสี่ยงในการติดโรคระบาดของพนักงาน

จุดเด่นของทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Working Mode)

จุดเด่นของการทำงานแบบไฮบริดที่หลายๆ องค์กรติดใจ จนนำมาปรับใช้กันอย่างแพร่หลาย คือพนักงานในองค์กรสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพนักงานและองค์กรได้ดี และหากมีประชุมสำคัญที่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศเพื่อพบปะพูดคุย ต้องปฏิบัติได้ตามคำสั่งขององค์กรหรือหัวหน้าทีม ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความสร้างสรรค์ และผลงานดีๆ ให้กับองค์กรได้เป็นเท่าตัว

1. เลือกเครื่องมือดิจิทัล (Tools) ที่ตอบโจทย์การทำงาน

องค์กรต้องปรับรูปแบบการทำงาน ให้ดิจิทัลมากขึ้นเมื่อเข้ามาใช้ระบบไฮบริดแบบเต็มตัว ควรมีการเลือกใช้ Software ที่สอดคล้องกับลักษณะงาน และช่วยให้การทำงานของบริษัทง่ายขึ้น แถมยังให้พนักงานได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดปัญหาด้านทรัพยากรคนทำงานในองค์กร เช่น ตระกูล Google Office และรวมไปถึง Microsoft Team, Zoom, Line, Slack, Discord, และ Dropbox เป็นต้น

การประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom และ Google Meet ถือเป็นเครื่องมือการทำงานยอดนิยมในยุค Hybrid Working

2. แผนงานต้องชัดเจน

การทำงานจากที่ไหนก็ได้ ต่างจากการทำงานที่ออฟฟิศ เพราะไม่ได้เจอหน้ากัน ดังนั้นการกำหนดแผนงานและทิศทางของแผนกและองค์กรจึงสำคัญมาก ต้องมีการพูดคุย อัพเดทกับผู้จัดการหรือหัวหน้าทีมอย่างสม่ำเสมอทางออนไลน์ เช่น Zoom และ Google Meet เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ทุกคนในทีมยังอยู่ในแผนงานเดียวกัน เข้าใจถึงเป้าหมายตรงกัน และมีการกระจายงานอย่างทั่วถึงตามหน้าที่ ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดในการสื่อสารได้เป็นอย่างดีแม้ว่าไม่ได้ทำงานที่ออฟฟิศนั่นเอง

3. ลงทุนกับแม่บ้านสำนักงาน

ความสะอาดของออฟฟิศเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้ข้ออื่น เพราะการเปลี่ยนรูปแบบมาทำงานที่บ้านนานๆ อุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงานในออฟฟิศอาจถูกมองข้าม แม่บ้านสำนักงาน แม่บ้านออฟฟิศจึงเป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณาเช่นกัน

ใช่ว่าองค์กรจะสามารถปล่อยปละละเลยความสะอาดของออฟฟิศ ความสะอาดของสำนักงานไปอย่างไม่สนใจใยดีแม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้ออฟฟิศในการทำงานมากนัก เพราะยังไงเสีย ทุกองค์กรก็ยังคงต้องการออฟฟิศ สำนักงาน เพื่อเป็นจุดรวมพลให้พนักงานได้เข้าไปพบปะ ประชุม พูดคุย และอัพเดทงานกันอยู่เรื่อยๆ

การไม่มีคนมาดูแล ทำความสะอาดสำนักงาน ทำความสะอาดออฟฟิศอย่างใกล้ชิด อาจทำให้ข้าวของเครื่องใช้สำนักงานต่างๆ เสื่อมสภาพ และสกปรกได้ อาจส่งผลให้ต้องจ่ายค่าซ่อมแซม อย่างบานปลายไม่รู้จบ รวมไปถึงสภานพแวดล้อมในออฟฟิศ จะขาดสุขอนามัยที่ดีไปนั่นเอง

แม่บ้านออฟฟิศ แม่บ้านสำนักงาน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็น เพราะสำนักงานควรมีคนคอยดูแลทำความสะอาดออฟฟิศให้สะอาดอยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีพนักงานเข้าไปใช้ก็ตาม ซึ่งอาจจะเป็นแม่บ้านสำนักงานรายเดือน หรือรายปี ที่ทำความสะอาดสำนักเป็นประจำ จัดหาโดยบริษัทจัดหาแม่บ้านสำนักงานชั้นนำ ซึ่งช่วยได้มากในเรื่องความสะอาดของออฟฟิศ มากกว่านั้นคือประหยัดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร องค์กรเองก็ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องสวัสดิการแม่บ้าน ประกัน และแม่บ้านลา ป่าย ขาด รวมไปถึงเหตุไม่คาดคิด ต่างๆ

ทั้งนี้ Seekster มีบริการแม่บ้านสำนักงาน แม่บ้านออฟฟิศ แม่บ้านโรงแรม แม่บ้านโฮสเทลบริการในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ที่สะดวก และช่วยประหยัดทั้งเวลาดำเนินการ และค่าใช้จ่ายที่ไม่พึงประสงค์ ในองค์กร ตอบโจทย์การทำงานทุกรูปแบบ เพราะเมื่อสถานที่ทำงานสะอาด ผลลัพธ์การทำงานย่อมออกมามีประสิทธิภาพแน่นอน

ผู้ประกอบการและองค์กรที่กำลังมองหาแม่บ้านสำนักงาน แม่บ้านออฟฟิศ มาช่วยดูแลความสะอาดภายในสำนักงาน และทำความสะอาดออฟฟิศ สามารถลงทะเบียนและรับข้อเสนอสุดพิเศษได้ที่: https://join.seekster.co/2022/maidforbusiness