ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการ Work From Home ซึ่งมีผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อยู่กับเราชาวพนักงานออฟฟิศมาตั้งแต่ปลายปี 2019 คนทำงานอย่างเราๆ ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานจากที่ออฟฟิศมาเป็นคนทำงานที่บ้านแทน ซึ่งก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่พอสมควร ต้องเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้านเพื่อให้เกิด Work-Life Balnce ที่ดี ที่ถือเป็นอีกหนึ่งกระแสที่พนักงานออฟฟิศหลายๆ คนพูดถึง และกำลังมองหาวิธีที่ทำให้ทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัวสามารถไปด้วยกันได้อย่างไม่เกิดผลเสียต่อทางใดทางหนึ่ง

วันนี้ Seekster มีวิธีดีๆ มาแนะนำสำหรับการปรับตัวให้เข้ากับยุค Work From Home เพื่อให้เกิด Work-Life Balance สำหรับคนทำงานที่ดี ไปดูกันเลยค่ะว่าเราในฐานะคนทำงานหรือพนักงานออฟฟิศ ควรเตรียมอะไรบ้างเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้

Work-Life Balance

1. เตรียมตัว

การเตรียมตัวสำหรับ Work-From Home สำหรับคนทำงาน ที่ดี คือการเตรียมตัวในแบบที่เราสะดวกและสบายใจที่สุดนั่นเองค่ะ กล่าวคือพอเปลี่ยนจากการเป็นพนักงานออฟฟิศมาเริ่มทำงานจากที่บ้านในแต่ละวัน เราควรทำร่างกายให้ฟิต ให้สดชื่น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเบาๆ ก่อนแล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้สบายตัว แล้วเตรียมอาหารเช้า ซึ่งเป็นมื้อสำคัญให้กับตัวเอง ถ้าใครอยากดื่มกาแฟถ้วยโปรดด้วยก็ยิ่งดีเลยค่ะ เพราะจะยิ่งทำให้เราชาวพนักงานออฟฟิศไม่ง่วง และมีเอเนอร์จี้เริ่มงานสำหรับเช้าวันใหม่นั่นเองค่ะ

2. เตรียมใจ

เตรียมร่างกายอย่างเดียวอาจจะยังไม่พอนะคะ สำหรับการ Work From Home ครั้งนี้ เพราะเราควรเตรียมจิตใจของเราให้พร้อมกับการเปลี่ยนจากการเป็นพนักงานออฟฟิศมาเป็นการทำงานที่บ้านด้วยค่ะ ที่อาจจะนำมาซึ่งความเครียด ความวิตกกังวล และความไม่ Productive ทำให้คนทำงานอย่างเราๆ ผลิตผลงานออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งสามารถเกิดได้กับพนักงานออฟฟิศทุกคนเลยนะคะ เพราะการทำงานจากที่บ้าน ที่มีสภาพแวดล้อมต่างไปจากออฟฟิศ ก็อาจจะทำให้คนทำงานอย่างเราต้องใช้เวลาปรับตัวสักนิดค่ะ

ไม่แปลกเลยค่ะ หากบางคนอาจจะมีอาการหงุดหวิด งุ่นง่าน เบื่อหน่ายจากการ Work From Home นานๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการCabin Fever (เคบิน ฟีเวอร์) แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ อาการเหล่านี้แก้ได้ค่ะ การจัดตารางงานที่ชัดเจน รวมถึงแทรกกิจกรรมพักผ่อนระหว่างวันเข้ามาบ้างก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีเลยค่ะ

3. เตรียมอุปกรณ์

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการทำงานที่บ้านสำหรับพนักงานออฟฟิศนั้น ก็คงจะเป็นอุปกรณ์ต่างๆ นี่แหละค่ะ ที่สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์หลักอย่าง คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป รวมไปถึงสมาร์ทโฟน และแท็ปเล็ต และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือตัวปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตค่ะ เพราะการ Work From Home จะไม่สำเร็จเลยหากไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เอาไว้เชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานของคนทำงานอย่างเราๆ ไว้ส่งงานได้อย่างสะดวกนั่นเอง

นอกจากอุปกรณ์แล้ว ก็ยังต้องมีแอปพลิเคชั่นที่เอื้อต่อการทำงานของพนักงานออฟฟิศที่ขาดไม่ได้เลยอีกด้วยนะคะ ซึ่งที่เป็นที่นิยมส่วนใหญ่ก็จะเป็นตระกูล Google Office ทั้งหลาย รวมไปถึง Microsoft Team, Zoom, Line, Slack, Discord, และ Dropbox เป็นต้นค่ะ

4. เตรียมสถานที่

สิ่งที่จำเป็นมากๆ อีกอย่างหนึ่งสำหรับการปรับตัวไปทำงานที่บ้านของพนักงานออฟฟิศทั้งหลายก็คงหนีไม่พ้นการจัดห้อง การจัดสถานที่ให้เหมาะสมกับการทำงานของเราค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้บ้านของเราสะอาดอยู่เสมอ และการจัดมุมทำงานให้เหมาะสม ซึ่งควรเป็นห้องหรือโซนที่แยกออกมาจากคนในครอบครัว สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งเร้าที่อาจรบกวนสมาธิในการทำงานของคนทำงานอย่างเรานั่นเองค่ะ

การเลือกเฟอร์นิเจอร์ ทั้งเก้าอี้และโต๊ะทำงานที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสรีระก็จำเป็นไม่น้อยเลยสำหรับเหล่าพนักงานออฟฟิศค่ะ เพราะไม่เพียงแค่ทำงานคนทำงานอย่างเราก็จะได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยที่เกิดจาก Office Syndrome ได้ด้วยนะคะ

อย่างที่กล่าวไปว่า การทำงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home นั้นกำลังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของพนักงานออฟฟิศยุคใหม่แห่งปี 2021 นี้ ที่ทุกคนล้วนมองหา Work-Life Balance ที่เหมาะสมกับตัวเองและเนื้องาน อย่าลืมนะคะ ถ้าเหนื่อยหรือถึงเวลาพัก คนทำงานอย่างเราๆ ก็ควรจะเว้นวรรค แล้วพักจากการทำงานบ้างนะคะ อย่าปล่อยให้เพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานของเรามาพรากชีวิตส่วนตัวของเรามากจนเกินไปค่ะ

ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การได้ทำงานจากบ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ สะอาด และถูกสุขลักษณะ ควรหันมาใส่ใจความสะอาดของบ้านที่เป็นเหมือนออฟฟิศอีกที่หนึ่งของคุณให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา ด้วยการจองบริการทำความสะอาดทั่วไปจาก Seekster นะคะ เริ่มต้นเพียง 549 บาท ต่อการทำความสะอาดบ้าน คอนโด อพาร์ทเมนต์ 2 ชั่วโมงค่ะ เพียงเท่านี้ทั้ง Work และ Life ของคุณ ก็ Balance ได้อย่างดีเลยค่ะ