HIGHLIGHTS

  • รู้จักกับไวรัสโคโรน่า (COVID-19)
  • 5 คำถามไขความจริงที่หลายคนสงสัย
  • วิธีรับมือและวิธีป้องกันการติดเชื้อเบื้องต้น
  • คำแนะนำเพิ่มเติม

นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “โรคอู่ฮั่น” ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดความอันตรายลง ซึ่งมีความรุนแรงเทียบเท่ากับโรคซาร์สมากที่สุด ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ องค์การอนามัยโลก ยังไม่สามารถหาที่มาของเชื้ออย่างชัดเจนได้ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเนื้อสัตว์ป่าที่ซื้อขายอยู่ และปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้แล้ว จากการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วย

ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยแล้ว 59 ราย ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 จนถึงต้นเดือนมกราคมปี 2020 ในประเทศจีนลุกลามเป็นวงกว้าง พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการระบาดของเชื้อไวรัสตัวนี้มาก พบว่าคนไทยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้ว 40 ราย (อัพเดตล่าสุด 27 ก.พ 2563) เนื่องจากเพิ่งพบการระบาดในมนุษย์ จึงยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และการพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ก็ต้องใช้เวลาหลายปี ดังนั้นอาจทำให้หลายคนรู้สึกหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย Seekster จึงอยากให้ทุกคนไปทำความรู้จักกับไวรัสโคโรน่าให้มากขึ้นและแนะนำแนวทางป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากไวรัสโคโรน่ากันค่ะ

อาการเบื้องต้นที่สังเกตได้จากโรคนี้ (***รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต)  ได้แก่

  1. มีไข้
  2. มีอาการไอ
  3. เจ็บคอ
  4. มีน้ำมูกไหล
  5. หายใจเหนื่อยหอบ

เชื้อไวรัสนี้มีสามารถในการแพร่กระจายได้เป็นอย่างดี สามารถติดต่อได้ผ่าน “คนสู่คน” โดยสามาถติดต่อได้หลายทาง เช่น การสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย อธิบายให้ชัดเจนก็คือ ถ้าอากาศโดยรอบมีเชื้อไวรัสโคโรน่าลอยอยู่ อาจเกิดจากการที่ผู้ป่วยจามหรือไอออกมา เราสามารถติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ผ่านทางการหายใจได้เช่นกัน แต่โอกาสจะน้อยกว่าการสัมผัสสารคัดหลั่ง (น้ำมูก น้ำลาย) โดยตรง

5 คำถามไขความจริงที่หลายคนสงสัย

  1. ไวรัสโคโรน่า สามารถติดต่อผ่านอุจจาระได้หรือไม่

- มีรายงานพบเชื้อไวรัสในอุจจาระได้และอาจจะมีโอกาสแพร่จากอุจจาระได้ ดังนั้น เวลากดชักโครก ให้ปิดฝาและล้างมือทุกครั้ง

2.  รับเชื้อแล้ว ป่วยทันทีเลยไหม?

- มีระยะฟักตัวประมาณ 2-14 วัน โดยอาจไม่มีอาการป่วยที่สังเกตเห็นได้

3.  สัตว์เลี้ยงที่บ้านสามารถแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าได้ไหม

- ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่าสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขหรือแมวสามารถติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม เราควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง การล้างมือให้สะอาดจะป้องกันเราจากเชื้อแบคทีเรียเช่น อี โคไล และซัลโมเนลล่าซึ่งคนจะได้รับผ่านสัตว์เลี้ยงได้

4.  การรับจดหมายหรือกล่องพัสดุที่ส่งมาจากประเทศจีนปลอดภัยหรือไม่

- ปลอดภัย คนที่รับสิ่งของทางไปรษณีย์จากประเทศจีนไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จากการวิเคราะห์ที่ผ่านมา เราพบว่าเชื้อไวรัสโคโรน่าไม่สามารถมีชีวิตได้นานเมื่ออยู่บนสิ่งของเช่น จดหมายหรือกล่องพัสดุ

5.  มียาตัวไหนสามารถป้องกันและรักษาเชื้อไวรัสโคโรน่าได้แล้วบ้าง

- ในปัจจุบันยังไม่มียาป้องกันและรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสควรจะได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมเพื่อทุเลาและรักษาอาการ

จะป้องกันไวรัสและโรคที่แพร่กระจายทางอากาศได้อย่างไร

เบื้องต้นทุกคนสามารถป้องกันตัวเองและคนรอบข้างให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ดังนี้

  1. ติดตามข่าวสารจากทางการอยู่เสม

ติดตามข่าวสารและสถานการณ์ผ่านประกาศหรือข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อติดตามว่ามีประเทศไหนบ้างที่มีการระบาด และควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศนั้นๆ หรือเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงและคนคนพลุกพล่าน

2.  รับประทานอาหารสะอาดและปรุงสุก

โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์จำเป็นต้องปรุงให้สุกเท่านั้น ก่อนที่จะนำมารับประทาน เพราะมีหลักฐานที่บ่งชี้มากมายว่าการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์แบบสุกดิบ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ขึ้น รวมถึงไม่เปิบพิศดารหรือจับสัตว์ป่า เช่น งู นก หนู มารับประทาน เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ดังนั้นในช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่า คุณควรงดเว้นอาหารประเภทสุกดิบไปก่อนค่ะ

3.  เน้นทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ

สำหรับใครที่ต้องการความเป็นอยู่และสุขอนามัยที่ดี การฆ่าเชื้อบนพื้นผิวต่างๆ เป็นประจำ จะทำให้ปลอดภัยทั้งต่อตัวเราเองและคนที่เรารัก เมื่อมีจุลินทรีย์น้อย โอกาสได้รับเชื้อก็จะลดลงตามไปด้วย เราทุกคนสามารถ ปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้นจากกรมควบคุมโรค เพื่อให้ห่างไกลไวรัสโคโรน่าได้ ดังนี้

  • หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ  โดยเฉพาะก่อนการรับประทานอาหารและหลังจากกลับถึงบ้าน
  • ใส่หน้ากากอนามัย และไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ
  • ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัด
  • ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะสิ่งของของคนป่วย รวมถึงไม่ลืมที่จะทำความสะอาดของใช้ส่วนตัวเป็นประจำ เช่น ซักเสื้อผ้าให้บ่อย ๆ ทำความสะอาดมีดตัดเล็บ ทำความสะอาดกลอนประตู
  • ระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด การทำความสะอาดบ้านและคอนโด รวมไปถึงสำนักงาน อาคารต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็น สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยก็จะทำให้เกิดความสบายใจ (บริการ Big Cleaning: ทำความสะอาดใหญ่ ป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า )

4.  ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ

สำหรับข้อนี้ถือเป็นหัวใจหลัก ถ้าหากเราสามารถรักษาร่างกายของให้แข็งแรงอยู่เสมอ เชื้อไวรัสจะไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ฉะนั้นในช่วงนี้เราจะต้องดูแลตนเองให้ดี  รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่  พักผ่อนให้เพียงพอ วมถึงหมั่นออกกำลังกายเพิ่มเติมด้วยค่ะ เพื่อไม่ให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อการเป็นโรคภัยไข้เจ็บ

คําแนะนําเพิ่มเติม

- ในช่วงเวลานี้ควรงดเข้าร่วมกิจกรรมทุกชนิด หรือลางานไปพบแพทย์หากมีอาการป่วยที่เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ

- หากสังเกตเห็นเพื่อนร่วมงาน/คนรอบข้างมีอาการไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก  ควรแนะนำให้ผู้มีอาการรับการตรวจตามขั้นตอน หรือไป โรงพยาบาลที่รับตรวจ Covid-19

- ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้มีอาการป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่มีอาการโรคในระบบทางเดิน หรือคนที่เพิ่งกลับมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

- เฝ้าระวังตนเองอย่างน้อย 14 วันหากเพิ่งเดินทางไปประเทศที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

- ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคือ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ทันที!!

***สามารถติดตามสถานการ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (2019-nCoV) ได้ที่ website ขององค์การอนามัยโลก (https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019)

ถึงแม้เชื้อไวรัสโคโรน่าจะสร้างความวิตกกังวลและหวาดกลัวให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก แต่เราทุกคนก็ยังคงต้องใช้ชีวิตและดำเนินกิจกรรมของตนเองต่อไป การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันตนเองจากไวรัสโคโรน่า จะเป็นอีกหนึ่งเกราะป้องกันภัยเพื่อให้เราห่างไกลจากโรคนี้หากทุกคนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดนั่นเองค่ะ :)

สำหรับใครอยากได้บ้านที่สะอาดถูกหลักอนามัยปราศจากเชื้อโรค! Seekster มีบริการพ่นฆ่าเชื้อโรค เชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อจากคนสู่คนได้ ดูรายละเอียดได้ที่นี่ เลย นอกจากนี้เรายังมีบริการทำความสะอาดอื่นๆ กำจัดไรฝุ่นที่นอน โซฟา ซักผ้าม่าน ฯลฯ อีกด้วยน้า คลิ๊กเลย

แหล่งที่มา: WHO องค์การอนามัยโลก