Highlight

  • เราจะไม่พูดถึงการอยู่รอด แต่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อย่างไร
  • การเปลี่ยน Fixed cost เป็น Variable cost อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การลงทุนและการชะลอการลงทุนในช่วงวิกฤตที่เราสามารถทำได้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงเวลานี้ ผู้ประกอบการหลายท่านได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 หรือไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ไม่โดยทางตรงก็ทางอ้อม นับได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับเจ้าของธุรกิจหลายๆท่าน แต่ในวิกฤตนี้เองค่ะ ที่จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในองค์กร โดยก่อนอื่นเลย เราต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่าเรากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตและเราจะจับมือไปด้วยกัน ในโอกาสนี้ Seekster ขอแบ่งปันเทคนิค ในการผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปพร้อมๆกับผู้ประกอบการไทยทุกคนค่ะ

เปลี่ยน Fix cost หรือ ต้นทุนคงที่ ให้เป็น Variable cost หรือ ต้นทุนผันแปร ให้มากที่สุด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนลงให้เหมาะสมที่สุด โดย Fix cost สามารถแบ่งออกมาได้หลายก้อน แต่ Fix cost ที่เกือบทุกธุรกิจจะต้องมี ได้แก่

  1. ค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน อาจจะเป็นถึง 1 ใน 4 ของค่าใช้จ่ายต่อเดือนของหลายบริษัทเลยค่ะ สำนักงานหากเป็นสถานที่ ที่มีจุดประสงค์เพื่อการประสานงานระหว่างแผนก ทำการประชุม การสร้าง Momentum ให้กับทีม แต่ทั้งหมดนี้ เราสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายคงที่ค่ะ เช่น การใช้ Co-working space / การทำงานแบบ Remote / การเช่าห้องประชุม เป็นต้น ซึ่งทางเลือกนี้ก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับธุรกิจที่มี Operation น้อย เช่น ธุรกิจกลุ่ม Production house / IT office เป็นต้น
  2. ค่าจ้างพนักงานประจำ เชื่อว่าทุกสำนักงานต้องการคนในการทำกิจกรรมทางธุรกิจ แต่บางกิจกรรม เช่น งาน Content เราสามารถหาตัวทางเลือกอื่นเข้ามาช่วยได้ค่ะ ตัวอย่างที่มีความนิยมมาก ก็คือ การใช้บริการ Freelance หรือ เช่น การจ้างแม่บ้านประจำ ซึ่งในปัจจุบัน เรามีีทางเลือกในการ จ้างแม่บ้านตามการใช้งานจริง ได้แล้ว เพราะเชื่อว่าหลายๆ สำนักงานเอง ไม่จำเป็นต้องใช้แม่บ้านทั้งวัน หรือทุกวันค่ะ และทาง Seekster เองยังมีบริการที่จะรับแม่บ้านประจำของสำนักงานมาขึ้นในระบบของเราเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้สำนักงานด้วยค่ะ

นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยี ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ ที่สามารถเข้ามาช่วยลดการทำงานผ่านคน และลด Human error ลงได้ เช่น การใช้ระบบ Chatbot ในการตอบและคัดกรองลูกค้าเบื้องต้น เป็นต้น ซึ่งขึ้นกับความเหมาะสมของธุรกิจด้วยค่ะ

ลด Fix cost หรือ ต้นทุนคงที่ โดยการสร้างวินัยในองค์กร การสร้างวินัยในองค์กรเป็นสิ่งที่เริ่มต้นยากหากเกิดขึ้นในสภาวะปกติค่ะ วิกฤตครั้งนี้อาจจะถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะเริ่มการสร้างวินัยที่ดีในองค์กรของเรานะคะ ได้แก่

  1. การลดการใช้ไฟฟ้าในบริษัท ข้อนี้ไม่ได้หมายถึงไม่ให้เปิดไฟนะคะ แต่จะเป็นการทำข้อตกลงในการใช้ไฟในบริษัท เช่น การเปิดแอร์เป็นเวลา การปิดไฟในเวลาพัก หรือการรณรงค์ในการใช้บันไดแทนการใช้ลิฟต์เมื่อขึ้นลงเพียง 1 ชั้น เป็นต้นค่ะ
  2. การลดการใช้ของใช้สิ้นเปลือง ของใช้สิ้นเปลือง เช่น กระดาษ โพสอิท หรือ ทิชชู่เองก็เช่นกันค่ะ เราสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงได้ค่ะ และเป็นการสร้างวินัย โดยอาจจะเน้นไปที่การ Re-use หรือ การใช้การส่ง Document ออนไลน์แทนการสั่งพิมพ์

เพิ่มการลงทุนที่เน้นประสิทธิภาพ และชะลอการลงทุนที่สร้างผลระยะยาวไปก่อน นอกการการลดต้นทุน เปลี่ยนต้นทุนคงที่แล้ว การเพิ่มกำไรเป็นอีกข้อหนึ่งที่จำเป็นต้องทำไปพร้อมกันค่ะ โดยการเพิ่มกำไรในช่วงนี้อาจจะต้องเป็นการเพิ่มสัดส่วน Performance marketing มากกว่าการสร้าง Branding การเพิ่ม Performance marketing ได้เช่น

  1. การเพิ่มช่องทางการขาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจอลูกค้า หรือโอกาสที่ลูกค้าจะได้มาเห็นเรามากขึ้น
  2. การจัดชุดสินค้า เพื่อเพิ่มขนาดการสั่งซื้อต่อครั้ง โดยการจัดชุดสินค้าจากสถิติการขายย้อนหลัง
  3. การหาตัวชี้วัดผลที่ถูกต้อง เครื่องมือสำคัญทางการตลาดคือการใช้วัดได้ว่ากิจกรรมทางการตลาดใดที่ส่งผลกระทบกับยอดขายมากที่สุด ซึ่งในข้อนี้เอง เราจะได้รู้ข้อมูลของธุรกิจของเรามากขึ้น และจากข้อมูลที่ได้รับอย่างถูกต้อง  เราอาจจะตัดสินใจในการเพิ่มการลงทุน หรือชะลอการลงทุนได้ดีที่สุดค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเทคนิคเล็กๆที่ทาง Seekster นำมาแบ่งปันตามประสบการณ์ของเราเท่านั้นค่ะ ผู้ประกอบการท่านใดที่มีเทคนิคที่ต้องการแบ่งปัน สามารถ Comment มาแชร์กันได้เลยนะคะ เพราะทาง Seekster เราเชื่อว่าหากผู้ประกอบการไทยเราการร่วมมือกัน เราจะต้องผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอน และอย่าลืมพิจารณา แม่บ้านสำนักงานของ Seekster ด้วยนะคะ :)